“เอกนัฏ” แฉเอง ผู้ผลิตสายไฟแสบทำเป็นขบวนการ ลดขนาดทองแดงลง ทั้งที่ติดตรา มอก. หรา ชี้ยอมไม่ได้ทำประชาชนไม่ปลอดภัย สั่งสอบถึงตัวการ ถอนใบอนุญาตทันที พร้อมจับตาเหล็กเบา ยางเก่าอีกด้วย พร้อมดึงห้างชั้นนำ 40 แห่ง ต้องขายสินค้าได้มาตรฐานเท่านั้น

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคที่ซื้อสายไฟทองแดงมาใช้แล้วไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่สายไฟติดตรามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ที่ซื้อสินค้าติดตาม มอก. แล้ว แต่ยังได้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ จึงได้ให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมสุ่มตรวจสอบสินค้าที่ติดตรา มอก. ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ทำเป็นขบวนการ ไม่ใช่แค่เฉพาะราย จึงได้สั่งให้ตรวจสอบเข้มข้น เชิงลึกให้ถึงตัวการ เนื่องจากเป็นเรื่องความปลอดภัยของประชาชน หากตรวจสอบพบให้ดำเนินคดีทันที คือ ให้ยกเลิกใบอนุญาต สั่งปรับ และจำคุก         

“ที่ผ่านมามีคนร้องเรียนมาว่า ใช้สายไฟแล้วไม่ได้มาตรฐาน คือ ลดขนาดทองแดงลง ทำให้สายไฟร้อนเร็วขึ้น จึงสั่งปูพรมตรวจผู้ผลิตและผู้นำเข้าที่มีเครื่องหมาย มอก. รวม 78 ราย ผ่านมาตรฐานเพียง 20 รายเท่านั้น ถือเรื่องที่น่ากังวล จึงสั่งให้ดำเนินคดีต่อไป รวมทั้งให้ตรวจสอบเข้มข้นในสินค้ากลุ่มอื่นๆ เพื่อลงโทษผู้กระทำผิดแบบเสมอภาค ไม่มีละเว้น ไม่ต้องโทรศัพท์มา ไม่รับสายใครทั้งนั้น โดยเฉพาะตอนนี้มีสินค้าเสี่ยงที่ต้องเข้มข้น 3 อย่างที่ต้องจับตา คือ สายปลอม ทำให้เกิดไฟไหม้ เหล็กเบา ทำให้โครงสร้างบ้านพัง และยางเก่า เกิดอุบัติเหตุ ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สินประชาชน”    

นอกจากนี้ ได้หารือร่วมกับร้านค้า ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านค้าออนไลน์ ให้จำหน่ายสินค้าควบคุมทั้ง 144 มาตรฐาน ครอบคลุมสินค้า 308 ผลิตภัณฑ์ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. เท่านั้น หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด รวมทั้งยกระดับการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน โดยเพิ่มจำนวนสินค้าควบคุมให้มากขึ้น ล่าสุดได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย ราย เช่น แม็คโคร เทสโก้โลตัส เซเว่น-อีเลฟเว่น ไทวัสดุ ดูโฮม โกลบอลเฮ้าส์ โฮมโปร บุญถาวร เซ็นทรัล เทอร์มินอลทเวนตี้วัน คิงเพาเวอร์ อินเด็กซ์ลีฟวิ่งมอลล์ บิ๊กซี  อีเกีย และค็อกพิท ในฐานะผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ และผู้จำหน่ายสินค้ารายใหญ่ ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนาเพื่อรับทราบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการป้องกันการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน

“โดยเฉพาะเดือนนี้ ห้างโมเดิร์นเทรดหลายแห่ง ได้ออกแคมเปญ 11.11 เพื่อส่งเสริมการขาย ทั้งที่จำหน่ายหน้าร้านและในแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ขอความร่วมมือให้ทุกท่าน ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่ หากเป็นสินค้าควบคุม ต้องเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. และมีคิวอาร์โค้ดที่สินค้า เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบรายละเอียดของสินค้า และข้อมูลของผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งเป็นช่องทางในการร้องเรียนในกรณีที่สินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานตามที่ระบุไว้ด้วย”

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ระหว่าง ก.ย. 66-ก.ย. 67 สมอ. ได้ดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 517 ราย ยึดอายัดสินค้ารวมมูลค่ากว่า 395 ล้าน โดยบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน ทำ นำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตแต่ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนผู้โฆษณาและผู้จำหน่าย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่าสินค้าไม่แสดงรายละเอียดสินค้า เครื่องหมายมาตรฐาน และคิวอาร์โค้ด และเอาผิดทั้งผู้นำเข้า ผู้โฆษณา และผู้จำหน่ายขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้น