2025-01-13 HaiPress
ส่องสาระสำคัญ ครม.ลุยไฟ กฎหมาย สถานบันเทิงครบวงจร 9 หมวด 65 มาตรา มีอะไรบ้าง
สดๆ ร้อน ๆ ในที่สุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็มีมติลุยไฟ เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะจัดส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา พร้อมกับให้สำนักงานกฤษฎีกาดูเพิ่มเติม หลายคนอาจสงสัย ร่างฉบับนี้มีสาระสำคัญอะไรบ้าง พาไปดูกัน
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. ประกอบด้วย 9 หมวด 65 มาตรา
กำหนดให้ “สถานบันเทิงครบวงจร” หมายความว่า การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน และกำหนดให้ “กาสิโน” หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนันในสถานที่ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ
1.หมวด 1 คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 6–14)
กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบายฯ) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีกรรมการโดยตำแหน่ง 9 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 6 คน มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบายของสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการ การป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบ จำนวนใบอนุญาตและพื้นที่การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขออนุญาตและเลิกประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
ประเภทกิจการที่อาจดำเนินการได้ในสถานบันเทิงครบวงจร สัดส่วนพื้นที่กาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร เวลาเปิดปิดและสถานที่ตั้งของสถานบริการ วิธีการลงทะเบียนและอัตราค่าธรรมเนียมเข้าสถานประกอบการกาสิโน การให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน ลักษณะพนักงาน หลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยและชีวอนามัยพนักงาน หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับผู้ถือหุ้น
รวมไปถึงมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาให้ต่ออายุ หรือเพิกถอนใบอนุญาต การโอนสิทธิตามใบอนุญาต การแต่งตั้งหรือให้เลขาธิการออก การกำกับการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหาร ตลอดจนการออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ
2. หมวด 2 คณะกรรมการบริหาร (มาตรา 15–19)
กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมีบุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธาน มีกรรมการ โดยตำแหน่ง 11 คน มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 3 คน มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการขอรับใบแทนใบอนุญาต พิจารณาอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร
กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ กำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน และค่าตอบแทนของเลขาธิการและพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานฯ พิจารณาอุทธรณ์เรื่องร้องเรียน พิจารณาคำอุทธรณ์หรือคำร้องทุกข์ คัดเลือกหรือประเมินความรู้ความสามารถของเลขาธิการ แต่งตั้งบุคคลเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการมอบอำนาจของเลขานุการ ข้อบังคับหรือระเบียบของสำนักงานฯ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้เงิน ทุน หรือทรัพย์สิน รวมถึงค่าใช้จ่ายของสำนักงานฯ ตลอดจนการออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ
3. หมวด 3 สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 20–28)
กำหนดให้มีสำนักงานฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลและไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ โดยให้มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ปฏิบัติงานธุรการให้แก่คณะกรรมการนโยบายฯ และคณะกรรมการบริหาร และมีหน้าที่และอำนาจในการศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร จัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน
แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานฯ สนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานบันเทิงครบวงจร กำกับ ตรวจสอบ ควบคุม และติดตามสถานบันเทิงครบวงจร กำหนดหลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ วิธีการเล่น ลักษณะของบุคคลต้องห้าม รับเรื่องร้องเรียน เสนอแนะข้อมูลและความเห็นต่อคณะกรรมการนโยบายฯ เสนอแนะหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้จ่ายเงิน ทุน หรือทรัพย์สินของสำนักงานฯ ประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานและลูกจ้าง ตลอดจนการออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ รวมไปถึงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการในการดำเนินการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์
ทั้งนี้ ให้สำนักงานฯ มีทุนและทรัพย์สินประกอบด้วยเงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ เงินอุดหนุนจากหน่วยงานของรัฐ ค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือรายได้อันเกิดจากการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของสำนักงานฯ ค่าปรับ และดอกผลของเงินหรือรายได้ ของสำนักงานฯ และให้นำส่งรายได้หักค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการเป็นรายได้แผ่นดิน
4. หมวด 4 เลขาธิการ (มาตรา 29–37)
กำหนดให้สำนักงานฯ มีเลขาธิการ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายฯ แต่งตั้งโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานฯ โดยให้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ และมีหน้าที่และอำนาจในการบริหารงานของสำนักงานฯ วางระเบียบการดำเนินงานของสำนักงานฯ เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานฯ รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติงาน บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานและลูกจ้าง
5. หมวด 5 พนักงานเจ้าหน้าที่ (มาตรา 38–40)
กำหนดให้สำนักงานฯ แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้มีหน้าที่และอำนาจในการเข้าไปในสถานที่ดำเนินการหรือสถานที่ตั้งของผู้รับใบอนุญาตเพื่อสังเกตการณ์หรือตรวจสอบการดำเนินการ เรียกเอกสารหรือหลักฐาน เพื่อตรวจสอบการดำเนินการ ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือการดำเนินคดี รับและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนหรือข้อพิพาท
นอกจากนี้ สั่งให้หยุดการเล่นหรือการเข้าพนันใด ๆ ในสถานประกอบการกาสิโนที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายนี้ ตรวจสอบหรือทดสอบเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน สั่งให้บุคคลซึ่งอยู่ในสถานประกอบการกาสิโนแจ้งชื่อหรือข้อมูลอื่นใดเมื่อมีเหตุอันควรสงสัย ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รายงานผลการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตต่อเลขาธิการ
6. หมวด 6 การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 41–50)
กำหนดให้สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนด โดยต้องประกอบไปด้วยธุรกิจ สถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายนี้อย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน จำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท และให้บริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับใบอนุญาตได้รับยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และมิให้นำความในมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และมาตรา 1105 วรรคสามแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้บังคับ
นอกจากนี้ ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่สำนักงานฯ โดยสำนักงานฯ มีอำนาจเรียกค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทน ค่าใช้จ่าย หรือค่าอื่นใด ที่กฎหมาย ข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติว่าด้วย การนั้นกำหนด และส่งให้แก่หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจเรียกนั้น และให้ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปีตามที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนด แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายนี้ โดยให้มีการประเมินประสิทธิภาพของ การดำเนินงานทุก 5 ปี และอาจพิจารณาต่ออายุได้คราวละไม่เกิน 10 ปี
ทั้งนี้ เมื่อได้รับใบอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตต้องเริ่มประกอบสถานบันเทิงครบวงจรด้วยตนเองภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร และต้องจัดให้มีระบบ การควบคุมกาสิโนที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม ซึ่งหากไม่ดำเนินการตามรูปแบบและแผนที่วางไว้ คณะกรรมการนโยบายฯ อาจพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตได้
อนึ่ง ในการเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร มิให้นำความในมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติ การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 และข้อ 9 ของกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2564 มาใช้บังคับ โดยห้ามมิให้ทำสัญญาเช่าเป็นกำหนดเวลาเกินห้าสิบปี และการต่อสัญญาเช่าอาจทำได้แต่จะต่อสัญญาเกินสี่สิบเก้าปีนับแต่วันครบห้าสิบปีไม่ได้ อีกทั้งการเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงนี้ไม่ถือว่าเป็นการร่วมทุนตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
7. หมวด 7 การควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 51–59)
กำหนดให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายนี้ โดยกิจกรรมใดของสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจรที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติหรือการกำกับดูแลตามกฎหมายอื่น ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และหนี้ที่เกิดจากการจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันให้เป็นหนี้ที่บังคับได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ ในส่วนของกาสิโนให้กระทำได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรโดยผู้รับใบอนุญาต และเฉพาะประเภทที่กำหนด และห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บุคคลภายนอกสถานประกอบการกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้ รวมถึงต้องจัดให้มีเขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโนที่ชัดเจน
ห้ามบุคคลที่อายุน้อยกว่า 20 ปี บุคคลที่ถูกสั่งห้ามเข้า ผู้มีสัญชาติไทยที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมเข้ากาสิโน นอกจากนี้ กาสิโนต้องมีสัดส่วนของพนักงานคนไทยและต่างด้าวตามที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนด โดยห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโน หรือให้ผู้ใดดำเนินการดังกล่าว และในกรณีผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ ต้องชำระค่าปรับและอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้
8. หมวด 8 บทกำหนดลงโทษ (มาตรา 60–62)
กรณีผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามที่ความกฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการแก้ไขตามคำสั่งสำนักงานฯ ภายในเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการตามระยะเวลาผู้รับใบอนุญาตต้องชำระค่าปรับ และคณะกรรมการนโยบายฯ อาจพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตได้
หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนดตามวรรคหนึ่ง ผู้รับใบอนุญาตต้องชำระค่าปรับเป็นรายวันในอัตราไม่เกินวันละ 5 แสนบาท ให้แก่สำนักงานจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จ หรือหากผู้รับใบอนุญาตที่ปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามตามมาตรา 55 เข้าไปในสถานประกอบกาสิโน ผู้รับใบอนุญาตต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ให้แก่สำนักงาน
9. หมวด 9 บทเฉพาะกาล (มาตรา 63–65)
ในวาระเริ่มแรกกำหนดให้มีข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นเลขานุการ ทำหน้าที่คณะกรรมการนโยบายฯ และคณะกรรมการบริหารตามกฎหมายนี้ไปพลางก่อน โดยให้รัฐบาลพิจารณาจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนให้แก่สำนักงานฯ ไปพลางก่อน