2025-02-13
IDOPRESS
แสนสิริ ผนึก 9 สถาบันการเงิน เตรียมออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชูดอกเบี้ย 5 ปีแรก ที่ 7.00 - 7.50%
แสนสิริ เตรียมรุกแผนธุรกิจปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดเมื่อครบ 5 ปี ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาทคาดอัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรกคงที่ [7.00 – 7.50]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ในระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” และความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ อยู่ในระดับที่ “BBB-” แนวโน้ม “คงที่”โดยทริสเรทติ้ง
9 สถาบันการเงินชั้นนำให้ความเชื่อมั่น ผนึกกำลังเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายคาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20,23 – 25 มิถุนายน 2568 การออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุน ตลอดจนรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต และจะนำไปทดแทนหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดเดิม ที่บริษัทมีแผนจะใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด
นายวิชาญวิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าแสนสิริเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ หรือ Perpetual Bond ต่อผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) พร้อมอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” และของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ระดับ “BBB-” โดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568
การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งนี้ สอดคล้องกับการวางแผนด้านการเงินเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เสริมสร้างความยืดหยุ่นของโครงสร้างเงินทุน และ เพื่อทดแทนหุ้นกู้ด้อยสิทธิมีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดเดิม ที่บริษัทมีแผนจะใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปซึ่งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกอยู่ระหว่าง 7.00 – 7.50% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง และคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 20,23 – 25 มิถุนายน 2568 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000บาท
ล่าสุด แสนสิริ ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 วางแผนเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท(แนวราบ 14 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ) ตั้งเป้าหมายยอดขาย 53,000 ล้านบาทเป้าหมายยอดโอน 46,000 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ขยายการพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มสินค้าระดับลักซ์ชัวรีและพรีเมี่ยมในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูงเร่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในกรุงเทพฯ เพิ่ม Backlog สนับสนุนการสร้างรายได้ระยะยาว รุกต่อ StrategicLocations ขยายการพัฒนาโครงการไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต พัทยา และขอนแก่นขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน โดยปีนี้จะมีโครงการ Joint Venture ใหม่ 7 โครงการ มูลค่า 19,500 ล้านบาทควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ปี 2567 ที่ผ่านมา แสนสิริสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ด้วยยอดขายและยอดโอน (รวมโครงการร่วมทุน)อยู่ที่ 50,000 ล้านบาท และ 43,700 ล้านบาท ตามลำดับ สามารถ Sold Out ได้ถึง 25 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท ด้านผลประกอบการ งวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้รวมสูงสุดในกลุ่มกว่า 29,000 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 4,000 ล้านบาท จากแผนธุรกิจและผลการดำเนินงานข้างต้น คาดว่าจะส่งผลให้การออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของบริษัทในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อผ่าน 9 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า