‘ซีพีเอฟ’ รุกเพิ่มเงินลงทุนในเวียดนาม-จีน มั่นใจโอกาสเติบโตสูง กำไรเพิ่มขึ้น

2025-04-22 IDOPRESS

ซีพีเอฟเพิ่มเงินลงทุนในเวียดนามและจีน มั่นใจเวียดนามโดดเด่น มีโอกาสเติบโตสูง กำไรเพิ่มตามสัดส่วนการลงทุนที่เพิ่มขึ้น และผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ดีขึ้น

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทซีพีเอฟมีมติอนุมัติให้ CPF Investment Limited บริษัทย่อยที่ดำเนินกิจการลงทุน เข้าซื้อเงินลงทุนเพิ่มอีกจำนวน 23.8% ให้เป็น 100% ใน C.P. Pokphand Co.,Ltd. หรือ CPP บริษัทย่อยที่ลงทุนในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรในประเทศเวียดนาม รวมถึงการลงทุนในธุรกิจไก่เนื้อครบวงจร ธุรกิจอาหาร ธุรกิจสัตว์น้ำ ธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจสุกรในประเทศจีน

การลงทุนเพิ่ม 23.8% จะเป็นผลให้ CPF เป็นผู้ถือหุ้น 100% ใน CPP ซึ่งการเป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียงรายเดียว จะช่วยให้ซีพีเอฟมีความคล่องตัวมากขึ้นในการบริหารจัดการและสามารถดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเพิ่มเติมในประเทศเวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตสูง และหากรัฐบาลเวียดนามอนุญาตให้บริษัทต่างชาติเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนการเข้าจดทะเบียนฯ นอกจากนั้น ได้ดำเนินการปรับแนวทางการทำธุรกิจในประเทศจีนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันให้ดีขึ้น

คณะกรรมการบริษัทซีพีเอฟอนุมัติการลงทุนนี้ ในมูลค่ารวม 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก ITOCHU Corporation ซึ่งจากสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มซีพีเอฟใน CPP ที่เพิ่มขึ้นจาก 76.2% เป็น 100% จะส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนของซีพีเอฟจาก CPP จะเพิ่มขึ้น และจะมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity) ที่ดีขึ้นด้วย โดยการกำหนดมูลค่าเงินลงทุนที่เข้าซื้อได้อ้างอิงจากมูลค่าที่เหมาะสมกับการเติบโตในอนาคตของธุรกิจ ซึ่งประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินด้วยวิธีต่างๆ ตามหลักมาตรฐานสากล ประกอบด้วย วิธีการคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow) รวมถึงวิธีเปรียบเทียบอัตราส่วนราคาตลาดกับกิจการในอุตสาหกรรมเดียวกัน (Market Comparable Approach) เช่น วิธีอัตราส่วนมูลค่ากิจการต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EV/EBITDA) วิธีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) เป็นต้น

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “นับตั้งแต่ความร่วมมือที่เริ่มต้นระหว่างกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ความสัมพันธ์ทางธุรกิจได้ก่อให้เกิดสร้างคุณค่าทางธุรกิจร่วมกันทั้งทางการค้าระหว่างกันและการลงทุนร่วม จากความสามารถที่เสริมระหว่างกันในด้านต่างๆ อาทิ การจัดหาวัตถุดิบ หรือ การจัดจำหน่ายสินค้า ซึ่งแม้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านการลงทุนดังกล่าว ความร่วมมือต่างๆ จะยังคงดำเนินต่อไป โดยมีเป้าหมายในการสร้างพลังความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา