2025-04-22
IDOPRESS
คาดพิษสงครามการค้า ฉุดค้าปลีก 4.4 ล้านล้านบาท ปีนี้โตแค่ 3.4% แนะต้องปรับตัวใช้กลยุทธ์ตั้งรับ รุกกลับ ปรับตัว
นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ทิศทางค้าปลีกไทยช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่าเติบโต 3.4% จากมูลค่า 4.4 ล้านล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงปี 65-66 ที่เติบโต 5.9% เนื่องจากปีนี้รับแรงกดจากเศรษฐกิจโลก ส่งออกชะลอตัว โรงงานต่างๆ ผลิตได้จากขึ้น ทำให้รายได้ชนชั้นกลางลดลง กำลังซื้อก็จะชะลอตัว ต้นทุนทางธุรกิจสูงขึ้น และสินค้าอีคอมเมิร์ซต้นทุนถูกที่ส่งออกไปสหรัฐ ไม่ได้จะล้นทะลักเข้ามาแล้วกระทบภาคการผลิตของไทย
“ค้าปลีกต้องมีการปรับตัว จะขายของถูกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาสินค้าหรือพยายามเพิ่มมูลค่าสินค้า ใส่บริการที่ดีเข้าไป เพราะในครึ่งปีหลัง ความท้าทายมีเยอะขึ้นแน่ๆ เพราะสินค้าจากประเทศอื่นล้นทะลักเข้ามา ดังนั้นต้องหาระบบหาเทคโนโลยีเข้ามาเสริม เพื่อทำให้มีความทันสมัย ปรับรูปแบบร้าน รูปแบบเพจ ให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น“
สำหรับกลยุทธ์ของสมาคมมองว่าจะต้องตั้งรับ รุกกลับ ปรับตัว โดยตั้งรับด้วยการป้องกันสินค้าราคาถูกและด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ อาทิ การตรวจสอบสินค้านำเข้า 100% แทนการสุ่มตรวจ ด้วยระบบเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำ ปราบปรามธุรกิจนอมินี โดยเร่งหามาตรการเชิงรุกในการจัดการผู้ที่สวมสิทธิคนไทยในทุกระดับ เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของเงิน และป้องกันการสวมสิทธิผลิตสินค้าที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกไปสหรัฐ ส่งผลให้ไทยเกินดุลสหรัฐ
ขณะเดียวกัน รุกกลับโดยจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กับสินค้าออนไลน์นำเข้า ปรับปรุงกฎหมายที่มีข้อจำกัดและไม่ครอบคลุมการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าไม่ได้มาตรฐานราคาถูกที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มข้ามชาติ เพื่อปกป้องผู้บริโภคคนไทย และออกมาตรการรับมือกับสถานการณ์สินค้าจากจีนที่ทะลักเข้าสู่ตลาดไทย,คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ให้กับนักท่องเที่ยวพร้อมลดภาษีนำเข้าสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะในกลุ่มแฟชั่น เครื่องสำอาง เครื่องหนัง น้ำหอม โดยอาจเริ่มที่สินค้าอเมริกาก่อน โดยนำร่องทำแซนด์บ็อกซ์เป็นเขตปลอดภาษี
นอกจากนี้ ต้องปรับตัวการลดทอนกฎระเบียบที่ล้าสมัยและซับซ้อน เช่น การปรับลดจำนวนและขั้นตอนการขอใบอนุญาตหลายใบให้อยู่ในใบเดียว สนับสนุนเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษี โดยจัดสรรงบประมาณเพื่อฟื้นฟูและพัฒนานวัตกรรมสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ พร้อมผลักดันให้ได้รับการรับรองเมด อิน ไทยแลนด์ และส่งเสริมการมอบสัญลักษณ์ไทย ซีเล็ค การันตีคุณภาพอาหารไทยซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ เป็นต้น
นายณัฐ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2 หรือ 3 นี้ ทางสมาคมฯ เตรียมเข้าไปคุยกับภาครัฐเพื่อเสนอนโยบายคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ทันที ณ ร้านค้า ให้กับนักท่องเที่ยวที่มี ยอดซื้อสินค้าขั้นต่ำ 3,000 บาทขึ้นไป และแซนด์บ็อกเขตปลอดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าไลฟ์สไตล์ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันท่ามกลางสงครามการค้าโลกอย่างจริงจัง