2025-05-15
HaiPress
วิเคราะห์ผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐ-จีน หลังบรรลุข้อตกลงเจรจากันได้ ลดภาษีเป็นเวลา 90 วัน ทิศทางจากนี้จะไปทางไหนต่อ
🔊 ฟังข่าว
⏸️ หยุดชั่วคราว
🔄 เริ่มใหม่
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ออกบทวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์สงครามการค้า ระบุว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนบรรเทาลง หลังในวันที่ 12 พ.ค. 2568 สหรัฐและจีน บรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีรายละเอียดสำคัญจากฝั่งสหรัฐ ดังนี้
1.สหรัฐจะปรับลดภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) กับสินค้านำเข้าจากจีนเป็นระยะเวลา 90 วัน ลดลงมาอยู่ที่ 10% จากเดิมที่ 125% ขณะที่ภาษีที่เรียกเก็บจากข้อกล่าวหาเรื่องเฟนทานิลที่อัตรา 20% ยังคงอยู่ ส่งผลให้ภาษีสินค้านำเข้าที่สหรัฐเก็บจากจีน หลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30% มีผลบังคับใช้วันที่ 14 พ.ค. 2568
ทั้งนี้ ภาษีรายสินค้าตามมาตรา 232 ยังคงไว้ที่ 25% เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม รถยนต์และส่วนประกอบ
2.ปรับลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าขนาดเล็ก (De Minimis) ลงมาอยู่ที่ 54% หรือ 100 ดอลลาร์/พัสดุ จากเดิมที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 2 พ.ค. 68 จัดเก็บภาษีที่ 120% หรือ 200 ดอลลาร์/พัสดุ
3.นอกจากนี้ ในข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้มีการระบุถึงเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมเรือที่เป็นสัญชาติจีนและดำเนินการโดยผู้ประกอบการจีน โดยในประเด็นนี้จะยังมีผลบังคับใช้ตามเดิมในวันที่ 14 ต.ค. 2568 มีอัตราเริ่มต้นที่ 18 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และจะเพิ่มขึ้นอีกรายปีใน 3 ปี ข้างหน้า
ขณะที่ฝั่งจีนได้ปรับลดภาษีตอบโต้กับสหรัฐ ลงมาอยู่ที่ 10% และจะยกเลิกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff barriers) ที่ประกาศหลัง 2 เม.ย. 2568 อาทิ การยกเลิกมาตรการจำกัดการส่งออกธาตุหายาก 7 ชนิด และยกเลิกการคว่ำบาตรธุรกิจสหรัฐ บางราย โดยจีนระบุว่า “การเจรจาการค้าครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของปักกิ่ง”
การเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนในครั้งนี้ ถือเป็นการบรรลุข้อตกลงที่สามารถปรับลดภาษีได้มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งคาดว่าการส่งออกจากจีนไปสหรัฐ จะกลับมาเร่งตัวขึ้นชั่วคราว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าแต่ยังไม่สามารถส่งออกได้จากอัตราภาษีในระดับสูง ซึ่งในเดือน เม.ย. 68 การส่งออกจีนไปสหรัฐ ลดลงถึง -21%YoY
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 2568 ทิศทางการส่งออกจีนไปสหรัฐ คาดหดตัวน้อยลงกว่าประมาณการเดิมอยู่ที่ -8% ถึง -10% จากเดิม -30% บนสมมุติฐานว่าหลัง 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีเพิ่มจากจีนในอัตราใกล้เคียง 30% ซึ่งคาดว่าจะมีการเจรจาเพิ่มเติมระหว่างทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และสี จินผิ้ง ประธานาธิบดีจีน ในสัปดาห์นี้ โดยทรัมป์ระบุว่าอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากจีนจะไม่กลับไปสูงถึง 145%
ทั้งนี้ สงครามการค้าที่บรรเทาลงอาจส่งผลให้เศรษฐกิจจีนปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าประมาณการเดิมมาอยู่ที่ 4.2% จาก 3.6% โดยยังขึ้นอยู่กับการเจรจาและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่คาดจะทยอยออกมาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ความตกลงนี้เป็นการปรับลดภาษีสินค้าจีนเฉพาะในช่วงทรัมป์ 2.0 แต่อัตราภาษีตั้งแต่ทรัมป์ 1.0 ยังไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อรวมกับอัตราภาษีปัจจุบันทำให้จีนยังคงถูกสหรัฐ เก็บภาษีอยู่ที่ 51% ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูงกว่าประเทศคู่ค้าสหรัฐ รายอื่น ที่ปัจจุบันถูกเก็บ Reciprocal tariffs เพิ่มเพียง 10% ดังนั้น การปรับลดภาษีของสหรัฐ ครั้งนี้คาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะสั้นทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ขณะที่ในระยะกลางถึงยาวอัตราภาษีที่อยู่ในระดับสูงจะยังส่งผลให้การค้าระหว่างสหรัฐและจีน มีแนวโน้มปรับลดลง