กรมการค้าภายใน การันตีสัปดาห์นี้ น้ำมันปาล์มขวด ลดลงเหลือ 45-46 บาทแน่นอน หลังสต๊อกเดิมช่วงปาล์มแพงหมดแล้ว พร้อมเร่งดันส่งออกซีพีโอ ย้ำโรงสกัด ลานเท รับซื้อปาล์มสดโลละ 5.20 บาท

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประชุมร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 7 ราย และผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่งออก 11 ราย เพื่อพิจารณาโครงสร้างต้นทุนปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์ม ซึ่งพบว่า สต๊อกน้ำมันปาล์ม ที่เป็นต้นทุนเดิมในช่วงที่ราคาผลปาล์มสดอยู่ กก.ละ 8-10 บาท ซึ่งทำให้น้ำมันปาล์มขวดขายเกินขวดละ 50 บาทนั้นเริ่มหมดแล้ว ทำให้ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปจะเห็นน้ำมันปาล์มสต๊อกใหม่ ซึ่งขายไม่เกินขวดละ 50 บาทวางขายทั่วประเทศ

“เดิมในช่วงที่ราคาผลปาล์ม กก.ละ 8-10 บาท ซึ่งเป็นประโยชน์กับเกษตรกร ผู้ผลิตก็จำเป็นต้องขายน้ำมันปาล์มขวดเกินขวดละ 50 บาท แต่ขณะนี้ราคาผลปาล์มสดอยู่ที่ กก.ละ 5-5.20 บาท ต้นทุนต่ำลง และผู้ผลิตทุกราย ยืนยันว่า สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ราคาน้ำมันปาล์มขวดจะต่ำกว่าขวดละ 50 บาทแน่นอน เหลือประมาณ 45-46 บาท”

อย่างไรก็ตาม จากผลผลิตปาล์มที่ออกจำนวนมากในขณะนี้ และราคาน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ของไทยแข่งขันได้ นั้น คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ที่มีตนเป็นประธาน ได้เร่งรัดผลักดันการส่งออกซีพีโอให้มากขึ้น เพื่อให้บริหารจัดการปาล์มน้ำมันได้อย่างเหมาะสม โดยช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้ ส่งออกได้แล้ว 420,000 ตัน และยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปอินเดีย คาดว่าทั้งปีนี้ จะส่งออกได้ใกล้เคียงกับปี 67 ที่ประมาณ 900,000 ตัน

นายวิทยากร กล่าวว่า สต๊อกซีพีโอของไทย ณ สิ้นเดือน เม.ย. 68 อยู่ที่ 323,983 ตัน เพิ่มขึ้น 74.64% จากสิ้นเดือน มี.ค. 68 ที่มี 185,520 ตัน ส่วนราคาซีพีโอของไทย ล่าสุด อยู่ที่ กก.ละ 32-32.50 บาท ขณะที่มาเลเซีย ผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของโลก อยู่ที่กก.ละ 30.40 บาท

สำหรับราคาผลปาล์มสด ล่าสุด คณะกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม เห็นชอบร่วมกันให้โรงสกัดปรับราคารับซื้อปาล์มน้ำมัน ณ หน้าโรงงานสกัดทั่วประเทศ (อัตราน้ำมัน 18%) จาก กก.ละ 5 บาท เป็น 5.20 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 68 ซึ่งจะทำให้ลานเทปรับราคารับซื้อให้สูงขึ้นด้วย เพราะเห็นว่า ราคาซีพีโอปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงต้นเดือน พ.ค. 68 อีกทั้งอัตราการสกัดน้ำมันโดยเฉลี่ยสูงขึ้น รวมทั้งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น จึงเห็นว่า สามารถเพิ่มราคารับซื้อให้มากกว่า กก.ละ 5 บาท ประกอบกับผลผลิตในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันเลยช่วงเวลาที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากแล้ว คงเหลือฝั่งอ่าวไทยที่ยังคงออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าจะลดลงในช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้

“กรมฯ จะร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มตามที่ขอความร่วมมือ ทั้งที่โรงงานสกัด ลานเท หากพบว่าการรับซื้อยังไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่ขอความร่วมมือไว้ อาจจะเข้าข่ายจงใจทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาสินค้าตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ก็พร้อมใช้ยาแรงเอาผิดตามกฎหมายทันที”