2025-08-04
HaiPress
ค่าเงินบาททำสถิติ พลิกแตะระดับอ่อนค่าสุดรอบกว่า 1 เดือน คาดกรอบสัปดาห์หน้า 32.30-33.10 บาทต่อดอลลาร์ จับตา ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาพลิกแตะระดับอ่อนค่าสุดรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่เงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นหลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย
เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบก่อนการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ แต่เริ่มทยอยอ่อนค่าลงในช่วงกลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้น หลังผลการประชุมเฟดสะท้อนว่า เฟดจะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (โอกาสการลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนก.ย. ลดลง)
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังมีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ค. และดัชนีราคา Core PCE ที่ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือน มิ.ย. (ตลาดคาดที่ 2.7%)
เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 32.87 บาทต่อดอลลาร์ สอดคล้องกับทิศทางอ่อนค่าของสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค และการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อ หลังความกังวลต่อผลกระทบของภาษีสินค้านำเข้าต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ผ่อนคลายลงบางส่วน หลังการเปิดเผยภาษี Tariffs อัตราใหม่ที่เริ่มมีผล 1 ส.ค. นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ต่ำกว่าอัตราที่ประกาศเมื่อ 9 เม.ย.
ในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ก.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-1 ส.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,775 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 1,855 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 1,847 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 8 ล้านบาท)
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.30-33.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน มิ.ย. ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือน ก.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOE ดัชนี PMI ภาคบริการเดือน ก.ค. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน ก.ค. อาทิ ตัวเลขการส่งออก ด้วยเช่นกัน