2025-09-18
HaiPress
สภาอุตฯ เปิดผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่น พบการเมือง–ลงทุนอืด ฉุดเชื่อมั่นเอกชนร่วง หวังรัฐบาลใหม่เร่งออกคนละครึ่ง สารพัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. 68 พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 86.4 ลดลงเล็กน้อยจาก 86.6 ในเดือนก่อนหน้า ต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ภายหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง รวมถึง การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐล่าช้า ในช่วง 11 เดือนของปีงบประมาณ 2568 โดยเฉพาะในกระทรวงคมนาคม และกระทรวงมหาดไทยที่ยังเหลือวงเงินจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากความไม่ชัดเจนด้านภาษีสหรัฐ รวมถึงปัญหาการปิดด่านการค้าไทย–กัมพูชา ที่คาดสร้างความเสียหายกว่า 14,000 ล้านบาท และปัจจัยภายนอก เช่น น้ำท่วมจากพายุโซนร้อนคาจิกิ ที่กระทบการเกษตรในภาคเหนือ และการขาดแคลนแรงงานจากแรงงานกัมพูชาที่ทยอยกลับประเทศซ้ำเติมบรรยากาศการลงทุน
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกเข้ามาช่วยประคับประคอง เช่น ปัจจัยบวกที่คาดว่าจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง คาดว่า จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน และเพิ่มการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ช่วงพ.ย.-ธ.ค. 68) คาดว่า จะส่งผลดีต่อการใช้จ่าย และการบริโภคสินค้า
“การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.50% การอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 18,500 ล้านบาท รวมถึงยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จากแรงหนุนของงานบิ๊ก มอเตอร์ เซลล์ ถือเป็นปัจจัยบวก ซึ่งได้สำรวจผู้ประกอบการ 47 กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า ปัจจัยกังวลหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ 72.6% นโยบายภาครัฐ 60.4% และอัตราแลกเปลี่ยน 45.7% ขณะที่ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและราคาพลังงานปรับลดลง”
สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 88.9 ลดลงจาก 89.2 เนื่องจากผู้ประกอบการยังรอความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาภาษีกับสหรัฐ การเปิดด่านการค้า และมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส.อ.ท. เสนอภาครัฐเร่งสรุปเงื่อนไขภาษีของสหรัฐ เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนปี 68 และเตรียมงบปี 69 ออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายเพื่อหนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน
“หากรัฐบาลใหม่เดินหน้านโยบายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปรับลดค่าไฟฟ้า จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม และผลักดันดัชนีความเชื่อมั่นให้ฟื้นตัวได้ในระยะต่อไป”